โดยนางสาวปวีณา เจ้าของสวนแตงโม กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีแม่ค้าคนกลางจากจังหวัดร้อยเอ็ดคนหนึ่ง มาหาเหมาซื้อแตงโมที่ปลูกเอาไว้จำนวน 15 ไร่ เพื่อที่จะไปขายต่อ และตกลงราคากันไว้ที่ 350,000 บาท จากนั้นก็พาคนงานพร้อมรถมาตัดและขนไปขาย เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา แล้วบอกว่าจะไปกดเอทีเอ็มเพื่อจะนำเงินมาจ่ายให้ภายหลัง โดยทิ้งใบขับขี่เอาไว้เป็นของประกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเองก็เคยขายแตงโมให้กับแม่ค้าคนนี้มาก่อนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จำนวน 9 ไร่ ในราคากว่า 100,000 บาท ซึ่งครั้งนั้นแม่ค้าจ่ายเป็นเงินสด ครั้งนี้จึงเชื่อใจ แต่ผ่านไปเป็นสัปดาห์ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้เงิน ลองติดต่อไปหลายครั้งก็ติดต่อไม่ได้ จึงไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้เป็นหลักฐาน

ที่ผ่านมามีเพียงบรรดาญาติพี่น้องของแม่ค้าคนดังกล่าวเป็นผู้รับสายและบอกว่าจะขอนัดไกล่เกลี่ย แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมมาเจรจา แถมยังให้พี่เขยโทรมาบอกว่าให้ไปตามเอาเงินจากรถที่มาขนแตงโมไปเอง ทางครอบครัวแม่ค้าจะไม่รับผิดชอบ ทั้งที่ตัวแม่ค้าเองเป็นผู้มาเจรจา และยังทิ้งใบขับขี่เองไว้เป็นของประกัน แม้ไม่ได้ทำสัญญากันไว้ก็ควรที่จะต้องรับผิดชอบ จึงอยากให้แม่ค้าคนดังกล่าว เข้ามาเคลียร์เงินในส่วนนี้เสีย ทุกอย่างจะได้คลี่คลายในทางที่ดี เพราะตอนนี้ครอบครัวของตนเองไม่มีเงินลงทุนแล้ว ทั้งนี้หากยังไม่ยอมมาจ่ายค่าแตงโม ก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถึงที่สุด

โดยล่าสุดขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสิงสาง ได้ทำการออกหมายเรียกตัวแม่ค้าคนดังกล่าวมารับทราบข้อหาและหากยังไม่มาตามนัด 2 ครั้งก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป

ภาพเหตุการณ์

ภาพเหตุการณ์

ภาพเหตุการณ์