ช้าแต่ชัวร์ วิธี ลดน้ำหนัก แบบไม่ต้องเข้ายิม ทั้งง่ายและประหยัด ก็หายไป 42 กิโลกรัม ในเวลาไม่ถึง 2 ปี

ช้าแต่ชัวร์ วิธี ลดน้ำหนัก แบบไม่ต้องเข้ายิม ทั้งง่ายและประหยัด ก็หายไป 42 กิโลกรัม ในเวลาไม่ถึง 2 ปี

สาวสิงคโปร์ แชร์เส้นทางการลดน้ำหนัก 42 กิโลกรัม ในเวลาไม่ถึง 2 ปี พลิกตัวเองเป็นคนใหม่ด้วยวิธีง่าย ๆ และประหยัด สร้างแรงบันดาลใจ ทำตามได้ไม่ยาก การลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นไปได้ถ้าเรามีความมุ่งมั่น

ขณะที่ไม่นานมานี้โลกออนไลน์ก็ได้มีกระแสการแชร์ต่อเรื่องราวของหญิงผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ซึ่งออกมาบอกเล่าประสบการณ์ ลดน้ำหนัก 42 กิโลกรัม ได้ในเวลาไม่ถึง 2 ปี พลิกตัวเองจากสาวพลัสไซซ์สู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้น ด้วยวิธีการที่บอกเลยว่าทั้ง ง่ายและใช้ต้นทุนต่ำ จนสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมาก โดยเธอคนนี้เป็นสาวสิงคโปร์ ชื่อ จัสมิน ถิง อายุ 35 ปี ทำงานเกี่ยวกับแผนกธุรการของบริษัทแห่งหนึ่ง

จากบทสัมภาษณ์กับเว็บไซต์เอเชียวัน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 จัสมินเผยว่าจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เธอซึ่งมีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม กำลังเดินขึ้นบันได แล้วรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากเกินไป สำหรับตัวเอง ในตอนนั้นเธอยังก้าวไปไม่ถึง 5 ขั้นด้วยซ้ำ ก็ต้องหยุดหอบหายใจแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้ตัวว่าถึงเวลาต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง ความปรารถนาที่จะลดน้ำหนักของเธอไม่ได้มีเพียงความคิดเท่านั้น

แต่จัสมินลงมือทำอย่างจริงจัง กระทั่งในตอนนี้ น้ำหนักของเธอลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 68 กิโลกรัม หรือพูดได้ว่าภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี จัสมินสามารถหั่นน้ำหนักออกไปได้ถึง 42 กิโลกรัม จากคลิปไวรัลที่เธอนำมาโพสต์ลง TikTok เผยให้เห็นภาพของจัสมินในวันวาน ที่กำลังส่งรอยยิ้มสดใสในกลุ่มเพื่อน ๆ ก่อนภาพจะตัดไปตอนที่เธอพยายามออกกำลังกายที่บ้านตามลำพัง ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลง เมื่อรูปร่างของเธอดูผอมลงเรื่อย ๆ

จัสมินเผยว่า ในขณะที่เธอเลือกใช้วิธีการควบคุมอาหารแบบ Intermittent Fasting (IF) หรือการอดอาหารเป็นช่วง ๆ แต่การออกกำลังกายหลัก ๆ ของเธอนั้นง่ายมาก ก็แค่ออกไปเดินเท่านั้น โดยเธอจะเดินเป็นระยะทาง 6-10 กิโลเมตร อย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะมันเป็นวิธีที่ทั้งง่ายและราคาไม่แพง ฉันชอบเดินในขณะที่ฟังเพลงโปรดไปด้วย แต่ฉันเกลียดการวิ่งจ๊อกกิ้ง จัสมิน เผย แม้ว่าการออกกำลังกายลดน้ำหนักส่วนมาก ผู้คนมักเลือกที่จะเข้ายิม

แต่สำหรับจัสมินนั้น เธอชอบออกกำลังกายกลางแจ้งมากกว่า เพราะสำหรับเธอแล้ว การเข้ายิมนั้นแอบน่ากลัวเล็กน้อย และเธอก็อายเกินกว่าจะเข้าไปออกกำลังกายในนั้น เนื่องจากเธอไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์ต่าง ๆ แถมสภาพแวดล้อมยิ่งทำให้รู้สึกว่าตัวเองอ้วนด้วย แม้ขณะนี้เธอจะลดไปได้ถึง 42 กิโลกรัมแล้ว จัสมินก็ยังไม่คิดจะหยุดความพยายาม เธอยังต้องไปต่อก่อนจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ นั่นคือการมีน้ำหนักตัวเหลือ 55 กิโลกรัม

แต่ถึงอย่างนั้นเธอยอมรับว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การได้มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ในระดับที่ดีต่อสุขภาพ คือไม่เกิน 23 โดยขณะนี้จัสมินมีค่า BMI อยู่ที่ 25.9 อนึ่ง การดูแลตัวเองให้คงความฟิตและมีสุขภาพดี กลายมาเป็นสิ่งที่จัสมินให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเธอไม่อยากสร้างภาระให้ครอบครัวด้วยการล้มป่วย ไม่ว่าจะเป็นในตอนนี้หรือในอนาคตก็ตาม และอีกหนึ่งแรงจูงใจสำคัญ คือเธอต้องรับผิดชอบต่อสุขภาพของตัวเองเพื่อที่จะได้ออกไปเที่ยว

ทั้งนี้ ในคลิปการผจญภัยบนเส้นทางลดน้ำหนักของจัสมิน มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดี รวมถึงขอบคุณเธอที่สร้างแรงบันดาลใจให้ คลิปของเธอเป็นเหมือนการจุดประกายให้หลายคนเริ่มต้นเส้นทางออกกำลังกายของตัวเอง ซึ่งเมื่อได้เห็นคอมเมนต์เหล่านี้แล้ว จัสมินก็ทั้งมีความสุขและภาคภูมิใจไปในเวลาเดียวกัน เธอยังได้รับกำลังใจจากพวกเขาด้วย คำพูดเหล่านี้ทำให้ฉันตื้นตัน ฉันยังภูมิใจมากด้วยเมื่อมีเพื่อนเข้ามาหาฉัน แล้วบอกว่าพวกเขาลดน้ำหนักได้หรือเริ่มออกกำลังกายเพราะฉันค่ะ จัสมิน เผย

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ