พระปลัดเทิดศักดิ์ และคณะได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง และเงินสดจำนวนหนึ่งให้ไว้กับนางหวั่นเพื่อไว้ใช้พร้อมทั้งสอบถามถึงความเป็นอยู่นางหวั่นจึงเล่าว่า ตนเองอยู่กับน้องสาวตามลำพัง ส่วนลูกก็แยกไปมีครอบครัวหมดแล้ว ทุกวันนี้มีรายได้จากเงินสูงอายุ ของตนจำนวน 700 และเงินของน้องสาว 800 ต่อเดือน รวมเป็นเงิน 1,500 ซึ่งเงินดังกล่าว ตนเองต้องเจียดเงินใช้ให้พอเดือน ซึ่งบางเดือนก็ไม่พอใช้ ต้องไปซื้อเงินเชื่อจากร้านค้ามา เมื่อเงินออกจึงนำไปจ่าย หรือบางครั้งลูกก็ส่งเงินมาช่วยบ้าง ก็พออยู่กันไปได้

สู้ๆนะคะ

เห็นรอยยิ้มแล้วก็สุขใจ

นางหวั่นเล่าต่อว่า ตนเองเคยไปขอทำบัตรประชารัฐกับทาง ธกส.มาถึง 3 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการอนุมัติ โดยเจ้าหน้าที่ได้บอกมาว่า ตนเองมีบ้าน มีที่อยู่ 1 ไร่แล้ว ไม่สามารถทำได้ ก็คิดว่าคงทำไม่ได้แล้วจึงไม่ได้ไปติดตามอีก โดยเมื่อไม่กี่วันมานี้ ทางนายอำเภอกุยบุรีได้เข้ามาเยี่ยมเยียนตนกับน้องสาว ก็ได้บอกเรื่องนี้ไป ซึ่งก็ยังไม่มีการตอบรับใดๆ จึงได้แต่รอว่าจะมีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยอีกหรือไม่

สู้ๆนะคะ

ขอบคุณที่คนไทยไม่ทิ้งกัน

ขอบคุณ ฅนป่า หิมพานต์