เพจดังเตือน รัดเข็มขัดให้แน่น 10 เดือน ปิดแล้ว 1400 โรงงาน

เพจดังเตือน รัดเข็มขัดให้แน่น 10 เดือน ปิดแล้ว 1400 โรงงาน

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 ทีมงานได้รับรายงานว่า ดลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อ aomMONEY ซึ่งได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ของโรงงานที่ในช่วงนี้มักมีข่าวปิดกิจการ ปลดพนักงานอยู่บ่อยๆ โดยผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวระบุข้อความว่า ปีหน้าเตรียมรัดเข็มขัดกันให้แน่น! ผ่านไป 10 เดือน โรงงานปิดแล้วกว่า 1400 แห่ง

ณ ตอนนี้ต้องเรียกได้ว่า ไม่มีสัญญาณที่ดีทางเศรษฐกิจออกมาจากทั้งภาคการผลิต ภาคเอกชน ภาคการเงิน และประชาชนเลยครับ ถ้าหากไม่นับการแถลงข่าวว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจยังดีอยู่ แม้จะขัดความรู้สึกประชาชนหลายคนว่า เศรษฐกิจไทยกำลังแย่ เพราะตัวเลขจากกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ชี้ชัดว่า

เศรษฐกิจไทยค่อนข้างน่ากังวลแล้ว ดูได้จากข้อมูลในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 มีผู้ประกอบการมาแจ้งจำหน่ายทะเบียนโรงงานหรือมาแจ้งเลิกกิจการแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1339 โรงงาน มีพนักงานรวมทั้งสิ้น 34569 คน และคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมราว 56957 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก หากเทียบเท่ากับจำนวนการลงทุนและพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างและครอบครัว

บางบริษัทเลือกที่จะประกาศหยุดงาน โดยจ่ายค่าจ้างไม่เต็มจำนวน เป็นผลกระทบจากยอดออเดอร์ที่ลดลงจากต่างประเทศและวิกฤตเงินบาทไทยแข็งตัวมากเกินไป ซึ่งการจ่ายเงินไม่เต็มจำนวนนั้น เป็นเสมือนการบีบอ้อมๆ ให้พนักงานนั้นลาออกโดยบริษัทไม่ต้องชดเชยการเลิกจ้าง เพราะพนักงานส่วนมากนั้นแทบจะใช้เงิน ร้อยเปอร์เซ็นในการประทังชีวิต หากได้หยุดงานจริง แต่ได้เงินในสัดส่วนเพียง เจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็น ก็ไม่สามารถอยู่รอดในชีวิตประจำวันได้

ปัญหาต่อมาก็คือผลกระทบทางครอบครัวซึ่งบางคนที่ถูกเลิกจ้าง นอกจากครอบครัวของตัวเองแล้ว ยังมีคุณพ่อคุณแม่ญาติผู้ใหญ่ที่ต้องดูแลอีกด้วย แถมมีภาระการผ่อนชำระรายเดือนอีกด้วย

สิ่งที่น่าวิตกก็คือตลาดแรงงานในปัจจุบันนั้น

มีตำแหน่งงานรองรับไม่เพียงพอหรือไม่

เพราะหลายบริษัทก็ชลอตัวในการขยายกิจการออกไปเพื่อดูสถานการณ์เศรษฐกิจ อีกทั้งปีหน้าก็จะมีบัณฑิตจบการศึกษาเข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มอีกด้วย

สิ่งที่เรามองว่าพอจะช่วยได้ตอนนี้ก็คือ การรัดเข็มขัด เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสในการสร้างวินัยทางการเงิน เช่น การจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างแม่นยำครบถ้วน การตัดความไม่จำเป็นในส่วนการบริโภคให้ลดลงเช่น การทานข้าวนอกบ้าน หรือเครื่องดื่มราคาแพงก็ควรลดลง งดการช้อปปิ้งออนไลน์ในกรณีที่ไม่จำเป็น

เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าวิกฤตดังกล่าวจะอยู่กับเราไปนานเท่าใด หรือเราจะต้องพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกี่ยวกับงานที่เราทำอยู่เมื่อไหร่

แต่สิ่งที่เราต้องรู้ ก็คือ ณ สถานการณ์ปัจจุบันนี้และอนาคตที่กำลังจะมาถึง เรามีความพร้อมในการรับมืออย่างไร มีน้อยใช้น้อย มีเยอะก็ต้องเหลือเก็บ ไม่ใช่ว่าใช้หมด เพราะอนาคตนั้นไม่แน่นอน

แม้เศรษฐกิจจะไม่ได้แก้ได้ที่ตัวเรา แต่การเอาตัวรอดนั้นตัวเรามีส่วนสำคัญที่สุด

ยุคนี้อาจไม่ใช่ยุคเติบโตร่ำรวย แต่คือยุคแห่งการเอาตัวรอดให้ได้ เรา จะอยู่เคียงข้างให้กำลังใจทุกท่านเพื่อผ่านมันไปด้วยกันครับ

โพสต์ดังกล่าว

เรียบเรียง viralsfeedpro

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ