สาวบุรีรัมย์ เตือนภัย จดหมายรางวัลชุดโฮมเธียร์เตอร์

สาวบุรีรัมย์ เตือนภัย จดหมายรางวัลชุดโฮมเธียร์เตอร์

วันที่ 25 พฤศจิกายน 62 นางเพียร ถั่วประโคน อายุ 60 ปี และนางสุณีย์ เงียบประโคน อายุ 48 ปี สองพี่น้อง ชาวบ้านหนองปรือ ตำบลโคกม้า อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเตือนภัย หลังได้รับจดหมายจากบริษัทแห่งหนึ่ง ที่อ้างเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายยี่ห้อดัง ว่า เป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้า เตารีดไอน้ำ เตาอบไฟฟ้า และเครื่องดูดฝุ่น แต่พอนำจดหมายไปติดต่อรับของรางวัล พบว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้มีสินค้าวางจำหน่ายเหมือนกับห้างร้านทั่วไป เปิดเป็นห้องเล็กๆ เท่านั้น และพอไปถึงพนักงานกลับหลอกล่อให้จับสลากลุ้นรางวัลใหญ่ทั้งทองคำ และเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อดัง

แต่เมื่อทั้งสองจับสลากแล้วไม่ได้รางวัลใหญ่ พนักงานก็บอกว่าให้ลูกสาวของนางสุณีย์ ที่ไปด้วยจับอีก พอลูกสาวจับสลากปรากฎว่าได้รางวัลเป็นชุดโฮมเธียร์เตอร์ยี่ห้อดังจากต่างประเทศ ซึ่งทางบริษัทบอกว่ามีมูลค่าสูงถึง 76900 บาท แต่จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 36 เปอร์เซ็นต์ คิดคำณวนแล้วเป็นเงิน 27684 บาท แต่นางสุณย์ไม่มีเงินพอที่จะจ่ายจึงปฏิเสธไม่เอาของรางวัลที่จับได้ แต่พนักงานก็ยังคะยั้นคะยอ ทั้งยังเปิดเครื่องเสียงให้ฟังซึ่งเสียงดังกระหึ่มเพราะมากเหมือนในโรงหนังเลย จนนางเพียร ผู้เป็นพี่สาวที่ไปด้วยกันยอมเอาเงินที่พึ่งไปจำนำสร้อยคอทองคำ เพื่อเตรียมจะไปชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน จ่ายค่าธรรมเนียมให้กับทางบริษัทไป เพราะคิดว่าชุดโฮมเธียร์เตอร์ดังกล่าวเป็นของจริงนำเข้าจากต่างประเทศ

แต่พอนางเพียร จ่ายค่าธรรมเนียมแล้วจะถ่ายรูปชุดโฮมเธียร์เตอร์ให้ญาติดูว่าตนได้ของรางวัลชุดใหญ่ แต่ทางบริษัทกลับห้ามไม่ให้ถ่ายอ้างว่าเป็นลิขสิทธิ์ไม่สามารถถ่ายได้ ก็รู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร กระทั่งพนักงานนำชุดโฮมเธียร์เตอร์ที่อยู่ในบริษัท แต่ไม่ใช่ชุดเดียวกับที่โชว์หน้าร้าน ขึ้นรถให้ เมื่อนำกลับไปเปิดฟังที่บ้าน คุณภาพเสียงกลับไม่เหมือนกับที่พนักงานเปิดให้ฟังในร้านเลย เสียงต่างกันมากถึงแม้จะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเสียงแต่ก็ฟังออก

วันต่อมาจึงนำชุดโฮมเธียร์เตอร์ดังกล่าวกลับไปคืนบริษัทและจะขอเงินคืน แต่ทางบริษัทไม่ยอมให้คืนทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้ว เวลาที่ไปซื้อของตามห้างร้านทั่วไปสามารถคืนได้ไม่เกิน 7 วัน จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ กระทั่งทางบริษัทยอมคืนเงินค่าธรรมเนียมที่จ่ายไปให้ทั้งหมดส่วนตนเองก็คืนสินค้าให้กับทางบริษัทครบทุกชิ้นเช่นกัน

โดยนางเพียร บอกว่า แม้กรณีของตนเองจะได้เงินคืนแล้ว แต่อยากจะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นออกมาเตือนภัย เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านคนอื่นต้องตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อเหมือนกันตนเอง และเชื่อว่าน่าจะมีชาวบ้านในหลายอำเภอที่ได้รับจดหมายในลักษณะดังกล่าว

ขอบคุณ siamrath

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ