เจ้าของรถขนพริก ลั่น ไม่ยอมความ

เจ้าของรถขนพริก ลั่น ไม่ยอมความ

จากกรณีข่าวดังที่มี ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้มีการโพสต์คลิปไลฟ์ ในขณะที่คนขับรถขนพริกถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจที่ด่านแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาได้เกิดมีการโต้ เถียง กัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญขึ้นไปเจรจาในป้อม แต่ทว่าที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็คือ ในระหว่างที่คนขับรถกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในป้อมอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงดังสนั่นเกิดขึ้นที่รถ

เมื่อพากันไปดูและพบเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่ง มีพิรุธเหมือนกับซุกอะไรบางอย่างไว้แล้วก็วิ่งหนีไป ซึ่งตำรวจอ้างว่าได้รับบาดเจ็บจากยางรถที่แตกจึงขอไปหาหมอก่อน เมื่อดูที่รถพบยางแตกเป็นรอยยาวที่ด้านข้าง แหละมีหมวกหล่นอยู่ จึงสงสัยว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว อาจจะมาทำอะไรกับยางรถ

ซึ่งต่อมา ทางสถานีตำรวจทางหลวงหาดใหญ่ ได้ชี้เเจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพราะ อุบัติเหตุ บริเวณด่านตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ในส่วนของรถนั้น ทางตำรวจก็ได้เปลี่ยนยางให้เเล้ว อาจจะเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ อาทิเช่น ยางเสื่อมอายุ บรรทุกด้วยน้ำหนักเกินอัตรา และจะมีการสอบสวนต่อไป ทางด้านคนขับรถกระบะเเละเพื่อน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ร่วมกันเเถลงชี้เเจง และดูเหมือนว่าจบเรื่องราวกันด้วยดี

ล่าสุดเรื่องนี้ยังไม่จบ โดยเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ นายพรพจน์ แซ่ล้อ อายุ 26 ปี เจ้าของรถกระบะขนพริก และ นายพรศักดิ์ แซ่ล้อ อายุ 31 พี่ชายซึ่งเป็นผู้ช่วยขับรถและเป็นคนไลฟ์เฟซบุ๊ก ได้เดินทางไปยัง สภ รัตภูมิ จังหวัดสงขลา และเข้าแจ้งความกับ รตอ ธีรวัฒน์ สังเมียน รองสารวัตรสอบสวน สภ รัตภูมิ เพื่อให้ดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงนายนี้จนถึงที่สุดในข้อหาที่เกี่ยวข้อง

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและเร่งดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายทั้งสอบปากคำผู้เสียหาย รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรถกระบะคันเกิดเหตุ ยางรถที่ระเบิดซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ และเรียกคู่กรณีมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาใดบ้าง และจะส่งเรื่องไปยัง ปปช ดำเนินการเนื่องจากคู่กรณีเป็นข้าราชการตำรวจ

นายพรพจน์ เจ้าของรถเปิดเผยว่า ตนทั้งสองจะดำเนินการเอาผิดกับตำรวจทางหลวงนายนี้จนถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญาและจะไม่มีการยอมความและไม่กลัวแม้ว่าคู่กรณีจะเป็นตำรวจหรืออาจจะส่งผลกระทบกับอาชีพรับจ้างขนผัก ซึ่งสาเหตุนั้นไม่ใช่มาจากอุบัติเหตุแน่นอนเพราะเป็นยางใหม่ วิ่งได้พันกว่ากิโลเท่านั้น แต่ลักษณะเป็นรอยเหมือนจงใจชัดเจนและขณะเกิดเหตุ ก็มีตำรวจทางหลวงนายนี้นายเดียวที่ไปตรวจรถ ส่วนสาเหตุที่ปะทะคารมกันนั้นเป็นเพราะตำรวจทางหลวงนายนี้เรียกตรวจรถแต่ไม่มีอะไรผิดทั้งความสูงและท่อดัง เมื่อถามว่าแจ้งข้อหาอะไรก็ไม่ได้รับคำตอบและถูกว่าประกอบกับตนต้องทำเวลาเพื่อไปส่งพริกให้ทันจึงเกิดเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปขึ้นมา

นายพรพจน์ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องที่ทางร้อยเวรในวันนั้นออกมาบอกว่าได้มีการเจรจาและเคลียร์ปัญหากันจบแล้วนั้นเป็นเพียงคดีแพ่ง ที่ทางตำรวจทางหลวงยอมเปลี่ยนยางใหม่ให้และให้การช่วยเหลือสามารถนำพริกไปส่งได้ทันเวลา ซึ่งมีมูลค่ากว่า 4 แสนบาท แต่ในทางคดีอาญาตนไม่ได้พูดหรือบอกว่าจะยอมความจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงนายนี้จนถึงที่สุด จะไม่มีการเคลียร์หรือยอมความแน่นอน ส่วนตำรวจทางหลวงนายนี้ล่าสุด ในวันนี้ได้ไปรายงานตัวที่ตำรวจทางหลวงโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานีแล้ว จนกว่าผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจะออกมา

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ