ล่าสุด ทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งเห็นโพสต์ของน้าแต น้าของชมพู่เรื่องที่ไม่กล้ากินน้ำสาบาน คิดว่าก็คงหมายถึงตน เพราะตนพูดผ่านสื่อแบบนั้น แต่เหตุที่ไม่ดื่มเพราะพ่อแม่ตนไม่สบายใจ ตนต้องห่วงความรู้สึกของพ่อแม่ สิ่งไหนที่มันทำให้บุพการีตนไม่สบายใจ ตนเองก็คงจะไม่ทำ ตนเองคิดว่าเป็นความคิดส่วนบุคคล แล้วแต่มุมมองของน้าแตตนยืนยันว่าไม่ได้กลัวเรื่องความผิด เพราะตนไม่ได้ผิด แต่ตนกลัวสิ่งที่จะตามมาภายหลังจากที่ดื่มน้ำ ก็คือสิ่งที่มองไม่เห็น ทำนองเรื่องยาสั่ง ซึ่งมีคนเตือนตนมาหลายคน รวมทั้งพ่อแม่ ตอนแรกตนเองพร้อมจะดื่ม แต่เมื่อท่านเตือนมาตนเองคงไม่ขัด แต่หากจะดื่มตนเองก็ขอไปวัดพระแก้ว พร้อมทำทุกอย่าง หากแน่จริงก็ให้ไปสถานที่แห่งนี้ "ตนเองไม่รู้ความคิดน้าแตคิดอะไรอยู่ ตนไม่อยากก้าวก่ายความคิดส่วนบุคคล ตนเองปลงแล้ว ตนไม่โกรธ"

โดยก่อนหน้านี้ บัญชีเงินบริจาคหลังเจอน้องชมพู่เมื่อวันที่ 14 พ.ค. โดยแม่น้องชมพู่ ยืนยันว่าปิดรับแล้วตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. โดยได้รับบริจาคมาประมาณ 130,000 บาท ไม่ใช่ 30 ล้าน ซึ่งทางด้าน นางสาวิตรี แม่ของน้องชมพู่ แจงข้อสงสัย ทำไมแม่ไม่ปิดบัญชีว่า บัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีส่วนตัว บัญชี ธกส. ใช้กู้หนี้มาทำการเกษตร ไม่ใช่บัญชีที่เปิดขึ้นใหม่ เพื่อรับเงินบริจาค และเงินที่ได้รับบริจาคมา ก็นำไปใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์ ไม่ได้นำไปใช้ฟุ่มเฟือย ส่วนพ่อก็ไม่มีบัญชีธกส. แม่มีคนเดียว พ่อมีหนี้กับธนาคารออมสิน มีสมุดบัญชีออมสินเล่มเดียว มีหนี้ 5 หมื่น ตอนนี้น่าจะเหลือประมาณ 4 หมื่น ล่าสุด ในโลกออนไลน์ได้มีการเปิดเผยจำนวนยอดเงินในบัญชีของ นายอนามัย วงศ์ศรีชา หรือ พ่อน้องชมพู่ ที่เก็บไว้ส่วนตัว โดยไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน หลังจากเปิดรับบริจาค ซึ่งมียอดเงินรวมทั้งหมด 47,674 บาท