หนุ่ม กรรชัย กล่าวในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ถึงข่าวใหญ่กรณี ลุงพล นอกจากพูดเรื่องคดีและข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตั้งข้อหา 3 ข้อหา คือพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร , ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย , และกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

เขาตรวจสอบโดยใช้แสงซินโครตรอนว่าผมที่เจอในรถต่อกับผมที่หัวน้องได้ พิสูจน์ว่าวัตถุนั้นเป็นชิ้นเดียวกันหรือเปล่า มันตรวจได้หมด ตำรวจถึงได้มั่นใจว่าผมที่ตัดจากหัวน้องมา 36 เส้น หนึ่งหรือสองในนั้นไปอยู่ในรถลุงพล คือ หนึ่งในหลักฐาน

ส่วนเส้นผมหรือเส้นขนอีก 3 เส้นที่พบที่ตัวน้องชมพู่ เจอผมที่ขาดไปแล้ว ไม่มีรากผมก็ไปตรวจด้วยวิธี ไมโตคอนเดรีย ดีเอ็นเอ ฝั่งแม่ของน้องชมพู่ และเจอว่าเป็นใครซึ่งก็เชื่อมโยงไปถึงลุงพลได้ แต่อีกมุมหนึ่งถ้าจะวิเคราะห์กันตรงๆ เรื่องนี้ปีกว่าแล้ว ความคิดส่วนตัว ถ้าตำรวจจะจับแพะ 3-4 เดือนคงจับไปแล้ว

แต่เรื่องนี้สังคมโจษจันกัน ถ้าตำรวจทำเรื่องนี้ออกมาผิดพลาดอาย ตำรวจคงไม่ยอม ผมเชื่อแบบนั้นตำรวจไม่ยอมอายแน่กับเรื่องแบบนั้นในคดีนี้ เพราะสิ่งที่เรารู้ๆกันมาไม่ว่าจะหลักฐานหรืออะไร มันแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ อีก 80 เปอร์เซ็นต์ ที่ตำรวจเขาไม่ได้เปิดเผยออกมา มันอยู่ในสำนวนแล้วเราไปดูกันในศาล เขาบอกว่าเห็นแล้วจะอึ้งว่ามันคืออะไร ไม่ใช่อย่างที่เรารู้ ทนายรู้ หรือใครรู้ เขาบอกมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ สิ่งที่ตำรวจเขาเตรียมไว้