แจ็คกี้  อำพร นักวอลเลย์บอล

แจ็คกี้ อำพร นักวอลเลย์บอล

แจ็คกี้ อำพร หญ้าผา หนึ่งในนักวอลเลย์บอลหญิงที่ประสบการณ์ความสำเร็จกับทีมชาติมากมาย ตรงข้ามกับชีวิตรักที่ไม่สมหวัง ได้ถ่ายทอดความรู้สึกหลังจากที่ต้องเริ่มใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง

ก่อนที่เราจะรักคนอื่น เราต้องรักตัวเองให้เป็น ถ้ารักตัวเองไม่เป็นเราจะไม่สามารถดูแลใครได้เลย คำพูดของ เจ้าแม่ไหลหลัง แจ็คกี้ อำพร หญ้าผา อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย สะท้อนการใช้ชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทั้งในสนามและนอกสนาม ในสนามเธอคือนักวอลเลย์บอลหญิงที่เต็มอิ่มกับความสำเร็จเพราะอยู่ในชุดแชมป์เอเชีย 2 สมัย ปี 2009 และ ปี 2013 แต่นอกสนามไม่สวยหรูหลังได้หย่ากับอดีตสามีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

เด็กจังหวัดนครสวรรค์ที่ชื่นชอบ แอนนา ไภยจินดา ได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันวอลเลย์บอลผ่านทางโทรทัศน์ คุณพ่อจึงถามว่าทำไมชอบดูกีฬาวอลเลย์บอล เลยตอบพ่อว่าชื่นชอบการเล่นของพี่แอนนาและอยากเป็นแบบพี่เขา จุดประกายให้เล่นวอลเลย์บอล ตั้งแต่อายุ 12 ปี ที่โรงเรียนสตรีนนทบุรี มีอาจารย์สมพงศ์ บูลสิน เป็นครูคนแรก ก่อนจะต่อยอดไปติดทีมชาติ อำพร เริ่มติดทีมชาติเมื่อปี พ.ศ.2540 ช่วงแรกยังเล่นในตำแหน่งหัวเสา ก่อนที่ โค้ชอ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร จับให้เธอมาเล่นบอลเร็ว ก่อนหน้านี้เล่นบอลหัวเสาชอบตีบอลโค้งเพราะมองว่าบอลเร็วมันเหนื่อยไม่ได้คิดว่าจะได้เล่นบอลเร็ว หัวเสาไม่ต้องไล่บล็อกยืนตีโค้งเป็นส่วนใหญ่ พอเข้ามาทีมชาติอาจารย์อ๊อตเลยเลยให้ลองมาเล่นเพราะช่วงนั้นบอลเร็วไม่ค่อยมีคนเล่น

ช่วงแรกๆ ตีไหลไม่เป็นพอได้เล่นบอลเร็วตั้งแต่ตอนนั้นก็เลยเล่นมาตลอดกลายเป็นตำนานเจ้าแม่ไหลหลังจนถึงปัจจุบัน หากจะให้นิยามของคำว่าไหลหลังคงเป็นเพราะ บอลไหลหลังเป็นบอลที่ตีได้แต้มที่สุดกว่าลูกอื่นเป็นการทำแต้มที่ชัวร์ที่สุด เราเป็นคนที่ตีบอลเร็วไหลหลังได้ชัวร์ที่สุด พอได้รับฉายาเหมือนมีเราคนเดียวที่ทุกคนจะคิดถึง ถือเป็นความภูมิใจที่สร้างให้เรามาเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนคลับจดจำเราได้ ตลอดการเล่นทีมชาติมองว่าตัวเองนั้นประสบความสำเร็จในการเล่นวอลเลย์บอล แต่ยังขาดเพียงสิ่งเดียวที่ฝันไว้คือยังไม่ได้ไปโอลิมปิก

แต่การรับใช้ทีมชาติก็คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต คิดว่าทีมไทยก็มีโอกาสไปโอลิมปิกเหมือนกับชิงแชมป์เอเชียที่ไม่คิดว่าจะได้แชมป์เรายังได้แชมป์ อย่างโอลิมปิกคิดว่าพวกเราน่าจะทำได้ เด็กรุ่นหลังน้องๆ มีฝีมือเยอะพัฒนากันต่อไปได้

อำพร รับใช้ทีมชาติตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 ก่อนประกาศอำลา พ.ศ.2557 และกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในปี พ.ศ.2562 ซึ่งสุดท้ายขอยุติการเล่นทีมชาติในปีนั้นเพื่อทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัว แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เมื่อต้องยุติความสัมพันธ์หย่ากับอดีตสามีกลายเป็นซิงเกิลมัม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ 3 เดือนก่อนที่หย่าเหมือนชีวิตเราล้มขาดคนเคียงข้างสิ่งที่เราได้คือ ครอบครัว, เพื่อนรอบข้าง แฟนคลับคอยให้กำลังใจตลอด กลับไปอยู่บ้าน 2 เดือนครึ่งเพื่อทำใจ แต่ไปอยู่อย่างนั้นคิดว่าไม่ได้อะไร ถ้าเราไม่ได้กำลังใจจากตัวเองก็คงกลับไปไม่ได้" เสียใจมา 3 เดือน เสียใจมาทุกวัน เขามีความสุขเรามีความทุกข์ เราถามตัวเองว่า เราจะทุกข์ทำไมทั้งที่เขามีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ เราจะนั่งร้องไห้ทำไม เวลาเราร้องไห้ ลูกชาย (น้องสิงหา) จะเข้ามากอดจะมาร้องไห้กับเราตลอด

เราก็คิดว่าลูกไม่เคยรับรู้อะไรเลยจะให้ลูกมาร้องไห้กับเราทำไม เราคิดว่าตั้งแต่วันนี้เราพยายามทำตัวเราเอง ดูแลลูกให้ดีอะไรที่มันผิดพลาดไปแล้วเราลืม เราเริ่มต้นใหม่ถึงมันจะเริ่มต้นด้วยศูนย์ก็เหอะ บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ชีวิตเริ่มต้นด้วยศูนย์ คิดว่ามันยากแต่ต้องทำให้ได้ เพื่อตัวเราและลูก ลูกที่จะโตจะสอนให้เขาเป็นเด็กดีมีน้ำใจ สำหรับการใช้ชีวิตกับการเล่นวอลเลย์บอลหรือกีฬาอื่น อยากให้แบ่งเวลาให้ถูก ถ้าโตพอที่จะแยกแยะได้ ชีวิตก็จะไปได้สวยมาก อย่างชีวิตตัวเอง ใช้ชีวิตครอบครัวมา 7 ปีไม่คิดว่าจะล่ม วันหนึ่งที่ล่ม เราต้องยืนด้วยขาตัวเองให้ได้

ทุกวันนี้ ที่ยืนได้ด้วยตัวเอง มีสิงหาเป็นกำลังใจ มีครอบครัว พ่อแม่เพื่อน มีรอบข้าง ที่สำคัญ ก่อนที่เราจะรักคนอื่น เราต้องรักตัวเองให้เป็น ถ้ารักตัวเองไม่เป็นเราจะไม่สามารถดูแลใครได้เลย จากประสบการณ์ตัวเอง อนาคตหลังจากนี้วางแผนการเล่นวอลเลย์บอลไป 1-2 ปี เพราะตอนนี้อายุก็เยอะมีลูกที่ต้องดูแลและสิ่งที่ต้องทำหลายอย่างเสริมควบคู่ไปกับการเล่นวอลเลย์บอล ไม่ว่าจะเป็น ทำหมูแดดเดียวซิงเกิลมัม กับ ไลฟ์สดขายเสื้อผ้ากีฬา ผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อ - AMPORN HYAPHA

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ